กรมอุทยานฯ ขอขึ้นเงินเดือน 9,000 เป็น 11,000 บาท หลังไม่ปรับขึ้นมานาน 11 ปี

LIEKR:

ควรพิจารณาขึ้นเงินเดือนให้กับเจ้าหน้าที่ผู้พิทักษ์ป่า เพราะเป็นงานที่เหนื่อยและเสี่ยงภัยมาก ๆ

    นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้เปิดเผยข้อมูลว่า เมื่อวันที่  15 พ.ค. 66 ได้ส่งหนังสือคำร้องไปยังอธิบดีกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง เพื่อขอปรับเพิ่มเงินเดือนบุคคลภายนอกที่ปฏิบัติงานให้กับกรมอุทยานฯ ตำแหน่งผู้พิทักษ์ป่า จำนวน 13,419 อัตรา

    เนื่องจากไม่ได้มีการปรับอัตราค่าตอบแทยมานานกว่า 11 ปี นับตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.2555 ซึ่งค่าตอบแทนครั้งสุดท้ายนั้นได้มีการปรับ จาก 6,000 บาทเป็น 9,000 บาทต่อเดือน ซึ่งเมื่อเทียบกับบุคลากรที่ปฏิบัติงานด้านอื่น ๆ แล้ว เห็นได้ชัดว่ามีความแตกอย่างมากทั้งในด้านอัตราค่าจ้าง ค่าตอบแทน สวัสดิการและขวัญกำลังใจ 

    อีกทั้งมองว่าค่าตอบแทนของผู้พิทักษ์ป่า ไม่สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจและหากเทียบเงินค่าตอบแทนกับภาระงานที่ปฏิบัติและความเสี่ยงภัยที่อาจจะเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา

    ดังนั้นกรมอุทยานฯ จึงได้ทำเรื่องส่งกรมบัญชีกลางเพื่อขอปรับค่าตอบแทนให้เป็นไม่เกิน 11,000 บาท ต่อคนต่อเดือนและขอให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2566 เป็นต้นไป

    นอกจากนี้แล้ว นายอรรถพล ยังได้กล่าวถึงความสำคัญของผู้พิทักษ์ป่าด้วยว่า กรมอุทยานฯ มีภารกิจในการอนุรักษ์ คุ้มครอง ฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ และสัตว์ป่า การป้องกันปราบปรามการบุกรุกทำลายทรัพยากรของชาติในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขตห้ามล่าสัตว์ป่า วนอุทยาน พื้นที่ต้นน้ำชั้น 1 และพื้นที่อนุรักษ์อื่นๆ รวมกว่า 73 ล้านไร่ 

    ด้วยเหตุนี้ จึงต้องจ้างบุคคลภายนอก ซึ่งก็คือราษฎรในท้องถิ่นผู้มีความรู้ความสามารถ มีความชำนาญในสภาพภูมิประเทศ มีทักษะในการเดินป่า เพื่อร่วมปฏิบัติงานร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ บางครั้งอาจจะต้องพักแรมในป่าจนกว่าจะเสร็จสิ้นภารกิจ

    ซึ่งการปฏิบัติงานดังกล่าวมีความเสี่ยงต่ออันตรายที่อาจเกิดแก่สุขภาพจากสัตว์มีพิษ เขื้อโรค และภัยอันตรายต่าง ๆ ที่มีอยู่ในป่า เช่น อันตรายจากสัตว์ป่าดุร้าย หรือ อันตรายจากผู้กระทำผิดในป่าที่มุ่งร้ายต่อเจ้าหน้าที่

ที่มา : thaipost

บทความที่คุณอาจสนใจ