สื่อนอกอย่าง CNN ยกให้ "เมืองเก่าภูเก็ต" เป็น 1 ใน 13 เมืองงดงามที่สุดของเอเชีย

LIEKR:

เมืองไทย.. ไม่ว่าที่ไหนก็สวยงาม

    สื่อต่างชาติ อย่างเว็บไซต์ CNN ได้นำเสนอรายงาน 13 of Asia's most picturesque towns ในหมวด Travel พร้อมระบุว่า เอเชีย เป็นกลุ่มหมู่เกาะเขตร้อน มีนาข้าว ไร่ชา ภูเขา ซึ่งเป็นดินแดนมหัศจรรย์ และเป็นจุดหมายปลายทางที่มีความหลากหลาย ที่นักท่องเที่ยวสามารถค้นพบเสน่ห์ ตลอดจนความสวยงามของธรรมชาติ และความทรงคุณค่าของประวัติศาสตร์ได้

    ซึ่ง “ย่านเมืองเก่าภูเก็ต” (Phuket Old Town) ก็เป็น 1 ใน 13 เมือง จากการรายงานในครั้งนี้ โดย CNN ระบุใจความว่า นอกจากเกาะภูเก็ตจะโด่งดังที่สุดในเรื่องบรรยากาศ และความสวยงามทางทะเล ทั้งยังเป็นเมืองตากอากาศที่เต็มไปด้วยธรรมชาติ และเป็นเมืองในฝันของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกแล้ว ภูเก็ตยังมีพื้นที่สำหรับการดื่มด่ำกับวัฒนธรรมด้วย อย่าง “ย่านเมืองเก่า” ที่ทรงคุณค่าทางประวัติศาตร์ของเมืองภูเก็ต ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมือง และเต็มไปด้วยตึกสไตล์ ชิโน - โคโลเนียล ที่สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 18 และ 19 ซึ่งเป็นยุคแห่งการขุดแร่ดีบุกของเกาะ ซึ่งปัจจุบันตึกเหล่านี้ได้ถูกดัดแปลงให้เป็นร้านค้า ร้านอาหาร บาร์ โรงแรม เรียงรายไปตลอดแนวถนนถลาง นอกจากนี้ในย่านนี้ยังเต็มไปด้วยวัดจีน คฤหาสน์เก่าแก่ของคหบดีชั้นสูง รวมถึงพิพิธภัณฑ์ทางวัฒนธรรม

    สำหรับ 13 เมือง ที่ CNN ยกให้เป็นเมืองที่งดงามที่สุดในเอเชีย ได้แก่

1. จอร์จทาวน์, มาเลเซีย

    เป็นมรดกโลกอีกแห่ง ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนโดยยูเนสโก เนื่องจากเป็นย่านประวัติศาสตร์ ที่แสดงถึงอิทธิพลของวัฒนธรรมที่หลากหลาย โดยในช่วง 500 ปีที่ผ่านมา ที่นี่เคยเป็นอาณานิคมของอังกฤษ และศูนย์กลางการค้าที่โดดเด่นของช่องแคบมะละกา จึงเกิดการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างชาวมาเลเซีย  จีน อินเดีย และชาวยุโรป ส่งผลให้จอร์จทาวน์มีเป็นเอกลักษณ์ และหลักฐานจากการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรม อาทิ อาคารสีพาสเทล คฤหาสน์จีน อาคารรัฐบาลยุโรป เป็นต้น

2. โจวจวง, จีน

    นับว่าเป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดของจีน สร้างขึ้นเมื่อ 900 ปีก่อน ในช่วงสมัยราชวงศ์หมิง และสมัยราชวงศ์ชิง เมืองแห่งนี้จึงเปรียบเสมือนพิพิธภัณฑ์ที่มีชีวิต และสวยงาม

3. ยุฟุอิน, ญี่ปุ่น

    เมืองเล็กๆ ในจังหวัดโออิตะ บนเกาะคิวชู ทางตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่น เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องบรรยากาศอันสงบสุข และอ่างอาบน้ำออนเซ็น (น้ำพุร้อน) รวมไปร้านค้าต่างๆ ที่มุงหลังคาด้วยกระเบื้องแปลกตา ล้อมรอบด้วยทิวทัศน์ธรรมชาติอันเก่าแก่ ยิ่งในฤดูใบไม้ร่วงนักท่องเที่ยวสามารถจะได้สัมผัสกับความอุดมสมบูรณ์ของใบไม้สีส้ม และสีแดงที่สดใส ในขณะที่ฤดูใบไม้ผลิก็จะได้ชมดอกซากุระด้วย

4. ฮอยอัน, เวียดนาม

    เมืองเก่าของฮอยอัน ตั้งอยู่บนชายฝั่งตอนกลางของเวียดนาม ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก ในปี 1999 ที่ถือเป็นสวรรค์สำหรับช่างภาพ นักชิม และผู้ชื่นชอบสถาปัตยกรรม ซึ่งในอดีตเคยเป็นท่าเรือการค้าอาณานิคมของฝรั่งเศส และเป็นเมืองที่มีความสำคัญทางการค้ามากที่สุดในเวียดนาม ในช่วงศตวรรษที่ 16

5. วีกัน, ฟิลิปปินส์

    หนึ่งในสถานที่ที่ดีที่สุดในการสัมผัสกับสถาปัตยกรรมยุคอาณานิคมสเปนในเอเชีย โดยเมือง Vigan ตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันตกของเกาะลูซอน ในฟิลิปปินส์  ซึ่งก่อตั้งโดยชาวสเปนในปี 1572  และปัจจุบันได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นเมืองมรดกโลกของยูเนสโก

6. หลวงพระบาง, ลาว

    หลวงพระบางมักถูกยกย่องว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ทางจิตวิญญาณในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเมืองนี้ตั้งอยู่ที่ในหุบเขา ทางภาคกลางของประเทศลาว และมีแม่น้ำไหลผ่าน ซึ่งหลวงพระบางทำหน้าที่เป็นที่ตั้งของอาณาจักรแห่งแรกในลาวตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 ถึง 16 และถือเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่ยาวนานในเส้นทางสายไหม ต่อมาถูกยึดครองโดยชาวฝรั่งเศสในช่วงปลายยุค 1890 และเมื่อเวลาผ่านไปความกลมกลืนของสถาปัตยกรรมยุโรป และลาว ทำให้หลวงพระบางเป็นเมืองที่โดดเด่นจนมาถึงปัจจุบัน

7. กัมโพช, กัมพูชา

    เมืองชายฝั่งอันเงียบสงบได้รับการกล่าวขานว่าเป็นหนึ่งในเมืองเล็กๆ ที่สวยที่สุดในภูมิภาค และเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องทิวทัศน์ของแม่น้ำ ฟาร์มพริกไทย ร้านค้าแบบโคโลเนียลสไตล์ฝรั่งเศส รวมไปถึงถนนที่เป็นมิตรกับคนเดินเท้า และกิจกรรมกลางแจ้งมากมาย อาทิ การพายเรือคายัค ปั่นจักรยาน และการล่องเรือในแม่น้ำ ไปจนถึงการเดินป่าบนภูเขา

8. โคตา เกเด, อินโดนีเซีย

เป็นย่านที่เก่าแก่ที่สุดในยอกยาการ์ตา และมีชื่อเสียงในด้านอุตสาหกรรมเครื่องเงิน ถนนสายเล็กๆ และสถาปัตยกรรมที่เหมาะกับการถ่ายรูป ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถไปชมวัดเก่าแก่ที่สำคัญได้ที่นี่ด้วย

9. กอลล์, ศรีลังกา

    ตั้งอยู่บนชายฝั่ง ทางตะวันตกเฉียงใต้ของศรีลังกา เป็นเมืองที่มีกำแพงล้อมรอบ มีประวัติศาสตร์ยาวนานหลายศตวรรษในฐานะท่าเรือการค้าที่สำคัญ รวมไปถึงป้อมปราการอยู่ภายใต้การปกครองอาณานิคม ถึง 3 ประเทศ เริ่มต้นที่ชาวโปรตุเกส ตั้งแต่ปี 1505-1658 จากนั้นเป็นชาวดัตช์ในปี 1658-1796 และท้ายที่สุดก็เป็นชาวอังกฤษในปี 1796-1948 จนปัจจุบันได้รับการขึ้นทะเบียนโดยยูเนสโก ที่แวดล้อมไปด้วยคลังสินค้าเก่ากา พิพิธภัณฑ์ ร้านค้า ร้านอาหาร และบาร์

10. ฆานดรุก, เนปาล

    เป็นหมู่บ้านบนภูเขาในเขตเทือกเขาหิมาลัย ของเนปาล ตั้งอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 2,000 เมตร ที่สามารถเข้าถึงได้ด้วยการเดินเท้า ประมาณ 5 ชั่วโมง จากโปขระ เมืองริมทะเลสาบในเนปาล ซึ่ง Ghandruk ยินดีต้อนรับนักเดินทางไกลด้วยน้ำชาแบบดั้งเดิมบนยอดเขา เพื่อที่จะได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศแบบดั้งเดิม และชมทิวทัศน์เทือกเขาหิมาลัย ทั้งยังได้สัมผัสกับประสบการณ์ทางวัฒนธรรมของชาว Gurung ได้ที่นี่ด้วย

11. เมาท์เลน่อง, อินเดีย

    ตั้งอยู่ใน East Khasi Hills ทางตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย ได้รับการขนานนามว่าเป็น "หมู่บ้านที่สะอาดที่สุดในเอเชีย" โดยสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ ที่ชาวคาซีซึ่งเป็นชุมชนชาติพันธุ์ matrilineal ได้อาศัยอยู่ และมีความภูมิใจในการรักษาหมู่บ้านให้มีความสะอาด พร้อมกับปลูกต้นไม้ และตัดแต่งอย่างพิถีพิถัน จนมีชื่อเสียงไปทั่วอินเดีย

12. ไซกุง, ฮ่องกง

    ที่นี่ได้รับการยกย่องว่าเป็นปอดสีเขียวของเมือง เนื่องจากโดดเด่นด้วยภูเขา เกาะอันเขียวชอุ่ม และหมู่บ้านชายฝั่งที่สวยงาม โดยนักท่องเที่ยวสามารถเดินชมทัศนียภาพที่ยอดเยี่ยมบริเวณริมน้ำ และสัมผัสกับอาหารทะเลสดๆ ได้อีกด้วย

13. ภูเก็ต, ไทย

    นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมเมืองเก่า พร้อมกับชมทิวทัศน์โดยรอบได้ที่ Phuket's Old Town ซึ่งเต็มไปด้วยตึกสไตล์ ชิโน - โคโลเนียล ที่สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 18 และ 19 และถูกดัดแปลงให้กลายเป็นร้านค้า ร้านอาหาร บาร์ และโรงแรม ในปัจจุบัน

ข้อมูลและภาพ จาก bltbangkok

บทความที่คุณอาจสนใจ