"วาวน้ำ" เจ้าของแบรนด์พันล้าน วัย 21 เล่าทั้งน้ำตา ไม่คิดว่ารูปคู่ชมพูรูปเดียว ทำร้ายได้ขนาดนี้

LIEKR:

"ความรู้สึกเราคือ เราผิดอะไร ทำไมสังคมเบลมเราขนาดนี้ ขณะที่เราตั้งใจทำให้มันดี คุณไม่รู้หรอกเราสู้มาขนาดไหน…" #วาวน้ำ

    เคยเป็นข่าวดังเมื่อต้นปีก่อน เมื่อเด็กสาววัย 21 ปี สามารถคว้า ชมพู่ อารยา มาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของแบรนด์ตัวเอง ซึ่งทำให้หลายคนสนใจเธอเป็นอย่างมาก สำหรับ วาวน้ำ หรือ แวววรรณ กันต์นันท์ธร

    ล่าสุด วู้ดดี้ วุฒิธร พิธีกรดัง ได้เผยคลิปเปิดใจ วาวน้ำ เจ้าของแบรนด์พันล้านด้วยวัยเพียง 21 ปี หรือ “วาว Rosegold” กับชีวิตที่ผ่านจุดพีคหลายครั้งกว่าจะมีวันนี้ ภาพคู่กับชมพู่กลายเป็นดราม่าว่าเธอเป็นใคร รูปนี้พิเศษยังไงน่าสนใจตรงไหน มีสิทธิ์อะไรไปถ่าย

    วาวน้ำเล่าว่า เธอคือเจ้าของแบรนด์มูลค่าระดับพันล้านสามารถคว้าชมพู่มาเป็นพรีเซ็นเตอร์คนแรกได้ แต่ใครจะคิดว่ารูปหนึ่งรูปจะสามารถทำร้าย คนหนึ่งคนได้มากขนาดนี้

    "เหมือนเราไม่เคยเจอด้วย ความรู้สึกเราผิดอะไร ทำไมสังคมเบลมเราขนาดนี้ ขณะที่เราตั้งใจทำให้มันดี ทุกคำที่คนบอก เราเป็นลูกคนรวย เราโน่นนี่นั่น เยอะแยะมากมาย ความจริงกลับด้านเลย คุณไม่รู้หรอกเราสู้มาขนาดไหน มันเลยรู้สึกดิ่งโดยไม่มีสาเหตุจริงๆ ทั้งที่ความรู้สึกเราแข็งแล้วในการใช้ชีวิตมาตั้งแต่อายุ 13-14 เจอลูกค้าเจอคนเป็นหมื่นๆ ทำไมเรารู้สึกแย่จังเลย ผ่านมาได้เพราะเปิดธรรมะท่าน ว. ต้องพึ่งธรรมะ"

    วาว ยังเล่าจุดพลิกชีวิตในชีวิตเด็กอายุ 14 เรียนนานาชาติ แต่ครอบครัวเกิดมีปัญหาทางการเงิน จนไม่ได้ไปจ่ายค่าเทอม เจ้าหน้าที่บัญชีทวงเงินต่อหน้าเพื่อนๆ พอไปบอกพ่อ พ่อบอกว่าลืม จนผ่านไป 2 อาทิตย์ เจ้าหน้าที่มาทวงอีก พอตอนเย็นพอมารับ บอกพ่อ พ่อบอกว่าลืมอีก 

    ตอนนั้นด้วยอารมณ์อะไรบอกไม่ถูก พูดกับพ่อไปว่า ถ้าพ่อแม่ไม่มีปัญญาส่งให้เรียนวาวไม่เรียนแล้ว ตอนพูดเราอึ้งไปเลยทำไมคำนี้ออกจากปากเรา พูดแล้วรู้สึกผิดทันที เป็นจุดที่ทำให้คิดว่าจะทำอะไรดี อยากมีเงินโดยไม่ขอพ่อกับแม่ ไม่ต้องรบกวนเขา

    สุดท้ายตัดสินใจ ขอพ่อแม่อยากออกจากโรงเรียน ไม่ได้ประชด แต่จะเรียนกวดวิชาและสอบเทียบ ม.6 ให้ได้ เพราะเราอยากออกมาหางานทำ ตอนนั้น อายุ 14 พ่อแม่ก็คิดหนัก แต่ก็ให้เราพิสูจน์ ใช้เวลา 1 ปี จบวุฒิ ม.6 ตอนอายุ 14 อายุน้อยที่สุด

    สอบเทียบได้ก็ทำงานจนอายุ 17 ไปเรียนต่อธรรมศาสตร์ โดยตอนทำงานอายุยังไม่ถึงที่จะไปทำพาร์ตไทม์ เลยต้องเป็นนายตัวเอง ด้วยการขายของ ด้วยพ่อแม่อยู่สำเพ็ง เราโตมาจากสำเพ็ง มีของขายส่ง เริ่มเอามาขายเพื่อนในโรงเรียน อะไรที่คนอยากได้ กิฟต์ช็อป ของเล่น เริ่มจากเงินเก็บที่มีหลักพันจากค่าขนม มาซื้อของ 20-30 ไปขาย ต่อยอดไปเรื่อยๆ เมื่อกลับไปเรียนมหาลัย ภูมิใจเราหาเงินได้ ส่งตัวเองเรียนได้ เราไม่รบกวนพ่อแม่มานานแล้ว มีความสุขมาก

    แต่จนมาได้รู้ว่าแม่มีหนี้หลายสิบล้าน เป็นหนี้นอกระบบ เราเพิ่งมารู้ตอนที่มันแรงมาก เจ้าหนี้มา แม่กลับมาบนรถร้องไห้อย่างเดียว หน้าช้ำ ตอนนั้นแค่ดอกเบี้ยน่าจะเดือนละล้าน

    จากเรามีความสุขดูแลตัวเองได้ ต้องกลับมาคิดใหม่ เราต้องทำอะไรต่อไปเพื่อกู้สถานการณ์อันเลวร้ายนี้ได้ เดินออกจากมหาลัยที่เพิ่งสอบได้เป็นเฟรชชี่ ตัดสินใจออกมาตอนจบปี 1 มาลุย Rosegold โดยเฉพาะ ติดหนี้เป็นสิบล้าน แต่เราหาเงินได้แค่ล้านเดียว

    เรากลับไปที่บ้านแม่ก็ซึมเศร้าร้องไห้ทุกวันทุกเช้า ช่วงนั้นเปิดแบรนด์แรกๆ เรามีประชุมตัวแทนต้องไปให้กำลังใจเขา แต่ทุกเช้าของวาวคือการเห็นแม่นั่งร้องไห้ ก็ต้องร้องไห้กับแม่ ก่อนจะเดินขึ้นรถเพื่อลุยงานต่อ เป็นอยู่เป็นปี ไม่ว่าข่าวจะออกมายินดีกับเราแค่ไหน กลับบ้านมาเหมือนอีกโลก

    หลังจากได้ ชมพู่ อารยา มาเป็นพรีเซ็นเตอร์คนแรกแล้ว เรารู้สึกมั่นใจในตัวเอง ภูมิใจกับทุกความสำเร็จของตัวเรา และเราไม่หยุดพัฒนา เราอยากได้ภาพความน่าเชื่อถือ มั่นคง พิสูจน์แบรนด์เรา

    ตอนนั้นคิดถึง คุณแป้ง (มาดามแป้ง นวลพรรณ ล่ำซำ) ติดต่อทีมงานเขาไปอยากร่วมงาน มาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ เรามองเขาเป็นไอดอลหญิงแกร่ง ก็ไปเล่าให้เขาฟังว่าเรามีเขาเป็นแรงบันดาลใจ เราเดินมาถึงตรงนี้แม้อายุน้อย ไม่รู้อายุเท่าไหร่ แต่สิ่งที่มีเต็มร้อยคือพลัง อยากทำงานกับเขา

    สิ่งที่ทำให้ดีใจมากคือทีมงานติดต่อมาว่าคุณแป้งอยากคุยด้วย อยากเจอ ตื่นเต้นมากๆ คุณแป้งเหมือนสัมภาษณ์งานเราสัมภาษณ์แบรนด์ เหมือนคุยแล้วมีพลัง เขาบอกอยากร่วมงานกับคนอายุน้อย เขาก็อยากได้พลังให้ตัวเขาเหมือนกัน วาวใจฟู สุดท้ายคุณแป้งก็ตอบตกลง

    ส่วนที่หลายๆ คนมองว่าแต่งงานเร็ว แต่งงานในวัย 21 วาว เผยว่า อายุไม่ใช่ประเด็น พอกลับมาโฟกัสตัวเอง ถ้าได้แต่งงานกันจะมีความสุขแค่ไหน ถ้ามีครอบครัวมีลูกตัวน้อยเป็นพลังจะมีความสุขแค่ไหน คิดแค่นี้เลยอยากใช้ชีวิต 

    จะคิดเสมอในการใช้ชีวิตคือพรุ่งนี้เราจะไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้ว ไม่ว่ากับพ่อแม่หรือคนที่เรารัก เราใช้ความสุขนำทาง พอเราตั้งเป้าหมายว่าจะมีแต่ความสุขทุกวันมันก็จะมีแต่ความสุข แต่คนคิดว่าเดี๋ยวก็ต้องเลิกกันอย่างนั้นไม่ต้องคบกันเลยดีกว่า คิดแค่ง่ายๆ เลยพรุ่งนี้ถ้าเราไม่ได้อยู่ด้วยกันเราจะแต่งงานกันเลยไหม

ชมคลิป

คลิปเปิดไม่ออก >>> กดตรงนี้ คลิก <<<

ที่มา : WOODY FM Special

บทความที่คุณอาจสนใจ