เมื่อเร็ว ๆ นี้เว็บไซต์ต่างประเทศมีรายงานข่าวฉาวสะเทือนวงการกีฬาเกาหลีใต้ หลังจากที่คู่แฝดนักวอลเลย์บอลขวัญใจชาวเกาหลีใต้วัย 24 ปีอย่าง "อีแจยอง" (Lee Jae-yeong) และ "อีดายอง "(Lee Da-yeong) ถูกปลดออกจากทีมชาติ พร้อมกับถูกต้นสังกัดสั่งแบนอย่างไม่มีกำหนด!

อีแจยอง (ซ้าย) และ อีดายอง (ขวา)

        เรียกได้ว่าข่าวนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งข่าวดังในแวดวงกีฬาของประเทศเกาหลีใต้ หลังจากที่นักกีฬาฝาแฝดถูกสื่อขุดคุ้ยเรื่องราวว่า พวกเธอเคยรวมหัวกันกลั่นแกล้งอดีตเพื่อนร่วมทีมสมัยมัธยมเมื่อ 10 ปีก่อน โดยล่วงละเมิดทั้งด้านร่างกายและวาจา อีกทั้งยังพบได้ว่า การกลั่นแกล้งในครั้งนั้นส่งผลให้เหยื่อต้องทนทุกข์กับความเจ็บปวดที่ไม่หายไปไม่ต่ำกว่า 4 ราย แม้จะผ่านมานานนับทศวรรษแล้วก็ตาม ในขณะที่ผู้กลั่นแกล้งทั้งสองคนยังคงดูเบิกบานมีความสุขผ่านหน้าจอ

อีดายอง (ซ้าย) และ อีแจยอง (ขวา)

        แต่ทว่าทาง สมาคมวอลเลย์บอลแห่งเกาหลี (KVA) ก็ไม่สามารถปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปได้ จนล่าสุดวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา จึงได้มีคำสั่งแบนทั้งสองจากการเป็นนักกีฬาทีมชาติเกาหลีใต้

อีดายอง (ซ้าย) และ อีแจยอง (ขวา)

        สำหรับ "อีแจยอง" (Lee Jae-yeong) และ "อีดายอง "(Lee Da-yeong) เป็นนักวอลเลย์บอลหญิงสังกัดสโมสร Heungkuk Life Insurance Pink Spiders ที่มีฝีมือการเล่นโดดเด่นและยังสร้างผลงานไว้ในการเล่นระดับนานาชาติ ทั้งคู่มีส่วนสำคัญที่ช่วยให้ทีมชาติเกาหลีใต้คว้าตั๋วเข้าไปลงสนามในศึกโตเกียวโอลิมปิก ด้วยความสามารถและหน้าตาน่ารักทำให้พวกเธอกลายมาเป็นนักกีฬาคนดัง ที่ได้รับความนิยมในเกาหลีใต้อย่างมาก ทั้งยังเคยปรากฏตัวในรายการโทรทัศน์หลายรายการด้วยกัน

อีแจยอง (ซ้าย) และ อีดายอง (ขวา)

        โดยเว็บไซต์ต่างประเทศได้เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้อีดายองเคยตกเป็นข่าวมาแล้วหลายครั้งในช่วงปี 2563 หลังจากที่เธอกล่าวหาเพื่อนร่วมทีมอย่าง คิมยอนคยอง หรือที่ชาวไทยเรียกติดปากว่า "กัปตันคิม" ว่าเคยกลั่นแกล้งเธอ

        สำหรับ คิมยอนคยอง นับเป็นนักกีฬาวอลเลย์บอลระดับท็อปและเป็นขวัญใจมหาชน แต่แล้วอยู่ ๆ แฟนกีฬาเกาหลีใต้ก็เริ่มสังเกตเห็นความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดระหว่าง กัปตันคิม กับ อีดายอง จากการเล่นในสนาม และยังพบว่าอีดายองเคยโพสต์โซเชียลมีเดีย เหน็บแนมถึงรุ่นพี่รายหนึ่ง ที่ต่อมาสื่อรายงานว่า รุ่นพี่รายดังกล่าวก็คือ กัปตันคิม นั่นเอง อย่างไรก็ตามในขณะที่ยังไม่ชัดเจนว่าเกิดปัญหาอะไรขึ้นระหว่างทั้งคู่ แฟน ๆ หลายคนก็ได้ออกมาแสดงท่าทีปกป้องอีดายอง

        จากนั้นข้อความของอีดายองที่โพสต์ถึงการถูกบูลลี่กลับเป็นเหมือนสิ่งกระตุ้นให้คนที่เคยตกเป็นเหยื่อของเธอ ตัดสินใจออกมาโพสต์แฉพฤติกรรมของคู่แฝด ที่เคยเป็นหัวโจกกระทำกับคนอื่นสารพัด เพื่อเรียกร้องให้ทั้งคู่ออกมาขอโทษต่อสิ่งที่เกิดขึ้น พร้อมกันนั้นอดีตเพื่อนร่วมทีมของทั้งคู่ก็ยังได้ร่ายยาวถึงพฤติกรรมความรุนแรงที่คู่แฝดกระทำต่อเพื่อนร่วมทีม สมัยที่อยู่ในทีมวอลเลย์บอลของโรงเรียนมัธยมต้น ไม่ว่าจะเป็นเคยตบเพื่อนร่วมทีมจนแว่นกระเด็น เพราะส่งเสียงเชียร์ไม่ดังพอ เคยใช้มีดข่มขู่เพื่อนร่วมทีม ที่ไม่ยอมปฏิบัติตามคำสั่งของตัวเองในตอนกลางคืน เคยไถเงินเพื่อนเพื่อนำไปซื้อขนม หรือแม้แต่สั่งให้เพื่อนอยู่ห่าง ๆ เพราะตัวเหม็นและสกปรก อีกทั้งยังเคยด่าทอถึงพ่อแม่ของเพื่อนร่วมทีม และทำร้ายร่างกายเพื่อนร่วมทีมเสมอ

        ทั้งนี้ อดีตเพื่อนร่วมทีมรายดังกล่าวชี้ว่า คนที่ตกเป็นเหยื่อของคู่แฝดมีไม่ต่ำกว่า 4 คน ในขณะที่สุดท้ายคู่แฝดก็แค่ย้ายโรงเรียนจากไปเฉย ๆ โดยไม่เคยเอ่ยคำขอโทษ ซึ่งแม้ว่าตอนนี้เวลาจะล่วงเลยผ่านไปหลายปี แต่เหยื่ออย่างพวกเธอยังคงทรมานจากบาดแผลในอดีต และยังต้องทนทุกข์เมื่อเห็นคนที่เคยกระทำกับพวกเธอ ยังคงปรากฏตัวตามโทรทัศน์ด้วยรอยยิ้ม ซึ่งหลังโพสต์ดังกล่าวกลายเป็นกระแสร้อนที่ถูกพูดถึงกันสนั่นสังคมออนไลน์ ในที่สุดทั้งคู่ก็ออกมาโพสต์ข้อความขอโทษผ่านโซเชียลมีเดีย พร้อมย้ำว่าอยากจะไปขอโทษอดีตเพื่อนร่วมทีมเหล่านั้นด้วยตัวเอง

        อย่างไรก็ตามถึงแม้คู่แฝดจะออกมาขอโทษ แต่พฤติกรรมในอดีตของพวกเธอ กลับสร้างความไม่พอใจ และไม่เป็นที่ยอมรับของสังคม โดยพบว่ามีผู้คนมากมายเข้าไปถล่มบอร์ดแสดงความคิดเห็นในเว็บไซต์ของ สมาคมวอลเลย์บอลแห่งเกาหลี (KVA) โดยขอให้ทางสมาคมขับไล่นักกีฬาทั้งคู่ออกจากสมาคม มิเช่นนั้นจะไม่ติดตามการแข่งขันกีฬาวอลเลย์บอลอีก

        จนกระทั่งวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ทางสโมสรต้นสังกัดของพวกเธอได้ออกแถลงการณ์ ชี้ว่าทุกอย่างเป็นเรื่องที่ไม่อาจยอมรับได้ไม่ว่าจะสถานการณ์ใด ๆ ก็ตาม ดังนั้นทางสโมสรจึงตัดสินใจแบนนักกีฬาทั้ง 2 รายนี้อย่างไม่มีกำหนด

        ขณะเดียวกันทางสมาคมวอลเลย์บอลเกาหลีก็ได้สั่งลงดาบ ด้วยการแบนคู่แฝดดังกล่าวจากทีมชาติเกาหลีใต้เช่นกัน โดยอ้างถึงกฎที่ระบุไว้ว่า หากนักกีฬาหรือเจ้าหน้าที่ของสมาคมคนใดที่ก่อให้เกิดความวุ่นวายในสังคม จะไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่เป็นตัวแทนของประเทศในการแข่งขันระดับนานาชาติได้ 

        นอกจากนี้สถานีโทรทัศน์ต่าง ๆ ยังได้พร้อมใจกันถอดรายการที่คู่แฝดเคยปรากฏตัว หรือมีตารางถ่ายทอดหลังจากนี้ รวมถึงถอดโฆษณาที่มีพวกเธอร่วมแสดงด้วย

        แน่นอนว่าการสั่งแบนคู่แฝดคู่นี้ย่อมส่งผลกระทบถึงการแข่งขันที่จะเกิดขึ้นในอนาคตของทั้งสมาคมและทีมชาติเกาหลีใต้ เพราะปฏิเสธไม่ได้เลยว่าพวกเธอเป็นหนึ่งในนักกีฬาตัวหลักของทีม แต่ก็สะท้อนให้เห็นถึงความเด็ดขาดและเสียงสะท้อนของสังคมที่มีต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ที่มา : scmp, allkpop