จากชุดปฏิบัติการทีมสุนัขดมกลิ่น (DLD-Quarantine and Inspection Canine unit) ตรววจจับ ไส้กรอกหมู นำเข้าผิดกฏหมาย จำนวน 100 แท่ง น้ำหนัก 8.5 กิโลกรัม ราคาประมาณ 2,000 บาท ซึ่งประเทศต้นทางมีโรคระบาด ประเทศไทยจึงไม่อนุญาตให้นำเข้านั้น ทำให้หลายคนชื่นชมและให้ความสนใจ สุนัขบีเกิ้ล ผู้มีส่วนสำคัญในการที่ช่วยเจ้าหน้าที่ในการตรวจยึดไส้กรอกหมูเถื่อนเป็นอย่างมาก

    ล่าสุด สารวัตรกรมปศุสัตว์ เจ้าหน้าที่สุนัข บีเกิ้ล ประจำท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้เปิดเผยข้อมูลว่า ทางชุดปฏิบัติการทีมสุนัขดมกลิ่นมีทั้งหมด 13 นาย เจ้าหน้าที่ดูแล จะแบ่งชุดทำงาน เป็น 3 ชุดได้แก่ ทีมเข้างานกะเช้า, ทีมกะบ่าย และชุดเฉพาะกิจ 

    ทำงานวันละ 8 ชั่วโมง ไม่ได้ทำงานตลอดเวลา โดยสารวัตรจะออกตรวจในช่วงที่มีไฟล์บินเดินทางเข้าประเทศ ซึ่งจะมีช่วงพักเป็นระยะ ๆ 

    ที่ผ่านมาทั้ง 13 นาย ต่างก็ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยม ผลงานที่เรียกเสียงฮือฮาก่อนหน้านี้ คือปฏิบัติการ จับหมูยอเถื่อนลักลอบนำเข้าและผลงานล่าสุดคือ จับไส้กรอกหมูได้จำนวน 100 แท่ง ซึ่งสินค้าเหล่านี้ ต้องผ่านการตรวจโรคจากกรมปศุสัตว์ก่อน จึงจะได้รับอนุญาตให้นำเข้าประเทศได้

    นอกจากนี้แล้ว เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบติการ สารวัตรกรมปศุสัตว์ ยังเผยอีกว่า ในแต่ละเดือนจะมีการจัดทำผลงาน "สุดยอดนักดม" ที่ติดโผยอดนักดมและทำผลงานได้มากกว่านายอื่น ๆ คือ สารวัตร "โคลเอ้" 

    สำหรับ สารวัตร "โคลเอ้" คือ สุนัขบีเกิ้ลเพศเมีย อายุ ราวๆ 6-7 ปี แล้ว ที่ปฏิบัติหน้าที่ตรวจดมจับสินค้าเถื่อนได้จำนวนมาก ในแต่ละเดือน ไม่ว่าใครซุกซ่อนไว้ที่ไหนอย่างไร ไม่รอดจมูกสารวัตรโคเอ้ไปได้

    ยกตัวอย่างเช่น เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา สารวัตรโครเอ้ จับสินค้าเถื่อน สุกร สัตว์ปีก โค รวม 13 ครั้ง บางเดือนยอดตก เพราะ สารวัตรโครเอ้ ออกปฏิบัติภารกิจต่างจังหวัด และสารวัตร โคลเอ้ ถูกแพทย์สั่งให้ลดน้ำหนักด่วน เพราะผลตรวจสุขภาพ พบว่า มีไขมันพอกตับ

    แม้ว่าภายนอกจะดูสรีระไม่ได้อ้วนฉุขนาดนั้น แต่เพื่อสุขภาพที่ดีเจ้าหน้าที่ต้องหมั่นพา สารวัตรโครเอ้ ออกกำลังกายปรับอาหาร และมียาประจำตัวด้วย 

.

.

.

ที่มา :