การเคารพบุพการีถือเป็นเรื่องที่ดี แต่บางครั้งก็ควรจะมองถึงเหตุและผลของหลักความเป็นจริงด้วย ไม่ใช่ว่าจะหลับหูหลับตาเชื่อพวกท่านไปซะทุกเรื่อง

    เหมือนกับเรื่องราวสุดป่วนจากจีนแผ่นดินใหญ่ เมื่อคลิปของหญิงสาวรายหนึ่งกำลังยัวะจัด หัวร้อนแบบสุดๆ ได้ถูกแชร์ไปวงกว้าง โดยในเหตุการณ์นั้นเธอได้ถอดรองเท้าแตะ ไล่ตบผู้เป็นสามี พร้อมตะโกนด่าทออย่างไม่หยุดยั้ง จนพยาบาลถึง 3 คนรีบเข้ามาช่วยห้ามสุดกำลัง

    เมื่อไปสืบยังต้นสายปลายเหตุ จึงได้ทราบความจริงว่า เหตุที่คุณแม่ป้ายแดงรายนี้โมโหถึงขั้นสุดก็เพราะว่า เธอมีอาการเจ็บท้องมาก ๆ แต่แม่สามีไม่ยอมให้เธอทำการบล็อกหลัง (การฉีดยาชาเข้าบริเวณหลังส่วนล่างจนถึงช่องไขสันหลัง เพื่อระงับความเจ็บปวดระหว่างผ่าตัด) 

    เพราะเป็นความเชื่อมาตั้งแต่โบราณว่าการบล็อกหลังนั้น จะทำให้เด็กคลอดมาไม่แข็งแรง 100% และส่งผลต่อพัฒนาการของเด็กในอนาคตได้ ด้านสามีก็เชื่อฟังแม่แบบไม่ลืมหูลืมตา จึงห้ามหมอไม่ให้ฉีดยาด้วย ทำให้หญิงสาวหัวร้อนคนดังกล่าวต้องกล้ำกลืนคลอดลูกอย่างเจ็บปวด

    ซึ่งการตัดสินใจของสามีและแม่สามีนั้นเป็นการตัดสินใจที่เกิดขึ้นระหว่างที่เธออยู่ในห้องคลอด ไม่สามารถตอบโต้อะไรได้ โชคดีที่เด็กคลอดออกมามีสุขภาพแข็งแรง และหลังจากผ่าตัดทำคลอดเสร็จปุ๊บ เธอลืมความเจ็บปวดทางกายทั้งหมด เพราะปวดใจมากกว่า

    รีบสวมรองเท้าเดินปรี่เข้าไปชี้หน้าด่าสามี จากนั้นก็ถอดรองเท้าแตะปาใส่หัว ด้วยความโกรธสุดแรง สุดท้ายพยาบาลต้องช่วยกันมาห้าม และพาเธอกลับไปสติอารมณ์ที่เตียง

    เมื่อภาพความร้อนระอุทะลุร้อยองศาของคุณแม่ป้ายแดงรายดังกล่าวถูกแชร์ออกไป ก็ได้มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความเห็นใจเธอเป็นจำนวนมาก เพราะการคลอดลูกนั้นเจ็บปวดมากเกินจะทน

    ที่สำคัญการบล็อกหลังในการคลอดลูกไม่ใช่สิ่งที่ผิดแต่อย่างใด เพราะมันจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดให้คุณแม่ได้ อีกทั้งยังตำหนิทั้งแม่สามีและสามี ที่ใจร้ายและเห็นแก่ตัว ปล่อยให้หญิงสาวต้องทุกข์อย่างสาหัส 

    พร้อมทั้งทิ้งท้ายว่า "ใครเป็นคนคลอดก็ให้คนนั้นตัดสินใจ ใครไม่คลอดก็อยู่เฉยๆ" งานนี้ใครไม่เดือดก็ให้มันรู้ไปจ้า...

ที่มา : tiaotiaowen