ลูกชายทำตามฝันพ่อ แปลงโฉมรถกระบะเก่า ให้เป็นรถบ้านในแบบฉบับไทยๆ ในราคา 3 แสนกว่าบาท
LIEKR:
ไอเดียแปลงโฉมรถให้เป็นรถบ้าน มีทุกสิ่งแบบครบครัน มีพื้นที่เหลือให้พักผ่อนหย่อนใจในแบบฉบับไทยๆในราคา 3 แสนกว่าบาท (ไม่รวมตัวรถ) โดยคุณ Original Black สมาชิกเว็บไซตืพันทิป ได้แชร์กระบวนขั้นตอนทุกอย่างตั้งแต่ซึ้อรถไปจนถึงการตกแต่งทั้งภายนอกและภายใน บอกเลยว่าละเอียดสุดๆ เพื่อนๆอยากเห็นกันแล้วใช่ไหมคะ ถ้าอยากเห็นก็ตามไปชมพร้อมๆกันเลย
เนื่องจากผมเเละคุณพ่อมีโปรเจ็คสร้างรถบ้านเพื่อใช้สำหรับท่องเที่ยวกันมาซักพักนึงซึ่งตอนนี้จวนจะเสร็จเเล้ว จึงอยากจะมาเเชร์ประสบการณ์ให้ได้รับชมกันครับ
ก่อนอื่นขอเกริ่นก่อนว่าครอบครัวผมชื่นชอบการท่องเที่ยว บวกกับปัจจุบันคุณพ่อของผมอายุมากเเล้ว ท่านจึงอยากออกตะลอนท่องเที่ยวตามความฝันสมัยหนุ่มของท่าน โดยส่วนตัวพ่อเป็นคนชอบนอนในรถครับ เป็นนิสัยที่ติดมาตั้งเเต่สมัยคุณพ่อยังหนุ่มๆ(สมัยก่อนเวลาไปเที่ยวชอบจอดนอนตามปั้มน้ำมันครับ) เเละนั่นเป็นจุดเริ่มต้นให้สองพ่อลูกชักชวนกันสร้างโปรเจ็ครถบ้านนี้ขึ้นมาครับ
ในตอนเเรกคุณพ่อตั้งโจทย์มาว่า
1.เราอยากได้รถบ้านที่สามารถใช้นอนได้จริง ความหมายคือ สามารถใช้นอนได้สบายๆเหมือนอยู่บ้าน ไม่ใช่นอนเเล้วอยากออกไปนอนข้างนอกมากกว่าทำนองนี้
2.ขนาดต้องไม่ใหญ่หรือยาวเกินไปครับ เพราะคุณพ่อเป็นคนขับเอง เเละคนทั่วไปต้องขับได้ บวกกับถนนบ้านเราบวกกับสถานที่ต่างๆอาจจะไม่อำนวยกับการใช้รถขนาดใหญ่เกินไปนัก
3.วัสดุอุปกรณ์ต้องหาได้ในประเทศไทยเเละเหมาะกับการใช้งานในประเทศไทย
4.น้ำหนักต้องไม่มากเกินไป เพราะเป็นปัญหากับการเดินทาง เเละสิ้นเปลืองพลังงาน(ค่าน้ำมัน)
5.ใช้พลังงานสองทางเลือก LPG+น้ำมัน
6.สมรรถนะรถต้องขับขี่ได้อย่างปลอดภัย เเละต้องใช้งานได้เหมือนปกติ
7.รถที่ทำเสร็จเเล้วต้องจดทะเบียนได้ถูกต้องตามตามกฏหมาย
8.ราคาต้องสมเหตุสมผลคือไม่เเพงเว่อร์จนเกินไปนักครับ
9.รถคันนี้ต้องสามารถใช้เดินทางคันเดียวได้ จอดนอนในสถานที่ที่ไม่มีไฟฟ้าหรือน้ำประปาได้ในระดับหนึ่ง
ซึ่งจากโจทย์ทั้งหมดทั้งมวลทำให้สุดท้ายเราต้อง "สร้างขึ้นมาเองครับ" ในตอนที่คุณพ่อเอ่ยมาเเบบนั้นผมเองก็เเอบหวั่นๆนิดนึงครับ เพราะเราสองพ่อลูกห่างไกลจากสิ่งเหล่านี้มากครับ ไม่มีทั้งสกิลงานช่าง (คุณพ่อผมจบนิติศาสตร์ ส่วนตัวผมยังเรียนบริหารอยู่เลยครับ) เเละเเน่นอนว่ามันเป็นสิ่งที่ครอบครัวเราไม่เคยทำกันมาก่อน อีกทั้งยังเป็นการลงทุนเงินเเบบจม ถ้าโปรเจ็คล้มหรือพังคือ เงินเป็นศูนย์ทันที เเต่กระนั้นด้วยความดื้อเเละความบ้าของคุณพ่อผมเอง เอ่ยกับผมสั้นๆว่า "ถ้ามัวเเต่กลัวเเล้วไม่ลงมือทำ อะไรก็เป็นไปไม่ได้หรอก" เเละนั่นจึงเป้นจุดเริ่มต้นของโปรเจ็ครถบ้านเล็กๆคันนี้ในช่วงเวลาตลอดเกือบจะ1ปีที่ผ่านมาครับ
โดยรถบ้านคันนี้ไม่ใช่รถบ้านที่สมบูรณ์เเบบอะไรครับ เเต่เกิดจากความตั้งใจ ความพยายาม(ดื้อ) เเละการทำการบ้านกันอย่างหนักหน่วง หากมีข้อเสนอเเนะหรือติชม สามารถทำได้เลยนะครับ จะยินดีเป็นอย่างยิ่งเพื่อนำไปปรับปรุงเเก้ไขครับ
ส่วนตัวผมก็หวังว่าบทความนี้จะเกิดประโยชน์กับพ่อเเม่พี่น้องชาวพันทิปไม่มากก็น้อย หากมีข้อสงสัยหรืออยากสอบถามในขั้นตอนไหน สามารถสอบถามได้อย่างเต็มที่เลยนะครับ ไม่มีปิดบังเเน่นอนครับ
**หมายเหตุ1 ในวันที่เขียนบทความนี้ รถยังไม่เสร็จดีนะครับ ยังอยู่ในขั้นตอนเก็บงาน เเละทดสอบการใช้งานขั้นต้น เพื่อนำมาปรับปรุง เเละเตรียมการบิ้วท์อินภายใน
เริ่มเเรกจากการหาเเละเลือกรถก่อนนะครับ
โดยคุณพ่อผมตัดสินใจซื้อกระบะช่วงยาว เบนซิน 2.7 Toyota revo มือสอง ราคาที่ได้มาประมาณ 360,000 บาทครับ
หลังจากได้รถเเล้ว เราก็นำรถไปเปลี่ยนกระบะให้เป็นพื้นลอย(ยกพื้น)พร้อมสเกิร์ตล่าง ในราคาประมาณ 45,000บาทครับ กระบะได้มาจากร้านรุ่งเเสงกลการ เเถวๆมหาชัยครับ
อันนี้หน้าตาของกระบะครับ (ยังไม่ได้ใส่สเกิร์ตล่างนะครับ)
.
โดยขั้นตอนการสั่งทำกระบะ ผมพิจารณาความกว้างเเละยาวอิงตามความกว้างของกระบะTATAครับ ซึ่งกว้างภายใน 1เมตร70เซ็นติเมตร เเละยาวภายใน 2 เมตร 50 เซนติเมตร ความกว้างเเละความยาวนี้ถูกต้องตามกฏหมายเเละการใช้งานมีความปลอดภัยในส่วนของสมรรถนะ ในส่วนการตัดสินใจเลือกร้านที่จะสั่งทำนั้น พิจารณาจากความหนาของเหล็ก รูปทรงสวยงาม เเละราคาไม่เเพง
หลังจากที่เราใส่กระบะพื้นลอยมาเเล้ว ในขั้นตอนต่อไปเราจะเริ่มขั้นตอนนำรถมาต่อโครงสร้างหลังคา ผมสรุปจากข้อมูลที่หามาได้ทั้งหมดเเละข้อกฏหมายจากกรมการขนส่ง นำมาเป็นโจทย์ตั้งในการทำหลังคาดังนี้ครับ
1.ความสูงของรถจากพื้นถนนถึงหลังคารถ ต้องสูงไม่เกิน3เมตร (ผมเลือกความสูงจากพื้นถนนถึงหลังคารถที่3เมตร)
2.น้ำหนักของตัวรถ+หลังคา ต้องไม่เกิน 2,200กิโลกรัม (น่าจะใช้กับรถกระบะทุกเเบรนด์นะครับ)
3.ห้ามมิให้ความกว้างความยาวของหลังคาเกินกว่ากระบะรถ
4.ความยาวของโครงสร้างหลังคาด้านหน้าต้องไม่เกินหลังคารถด้านหน้า (ต้องไม่เกินขอบกระจกหน้าด้านบนของรถ)
5.กระบะที่ผมใช้ ใช้กระบะขนาดรถTATAนะครับ เพราะ ขนาดไม่ใหญ่ไม่ยาวเกินกว่ากฏหมายเเน่นอน
รูปประกอบจากกูเกิ้ลครับ
6.รถของผม ภายในรถความสูงจากพื้นกระบะถึงหลังคา ผมตั้งไว้อย่างน้อย 1เมตร80ซ.ม. ถึง2เมตร ขึ้นไปเพื่อให้ภายในเหมาะกับสรีระเเละการติดอุปกรณ์ในตัวรถ เช่นหลอดไฟ,พัดลม
7.รูปเเบบที่คิดเเละร่างไว้คร่าวๆก่อนไปติดต่อร้านต่อรถ เป็นดังรูปครับ
วางเเผนการใช้พื้นที่ข้างในรถครับ
(ซึ่งมีการเเก้ไขหลายครั้งเเต่คร่าวๆประมาณนี้ครับ)
หลังจากที่ได้รูปเเบบหลังคา ผมได้สอบถามหลายร้านเเละหลายโรงงานซึ่งบางร้านไม่เคยทำเเละไม่กล้าทำ สรุปผมตัดสินใจทำหลังคาที่ น่ำเชียงหลี NCL Auto ตรงซอย20มิถุนา ซึ่งโรงงานนี้มีช่างออกเเบบตามที่เราต้องการ เเละมีข้อเเนะนำให้กับเราเสมอครับ ตอนไปเห็นโรงงานเเล้วตกใจเหมือนกันครับ ใหญ่เเละดูมีมาตรฐานมากครับ อีกอย่างที่ผมประทับใจโรงงานนี้คือ เค้าไม่ปฏิเสธเมื่อต้องทำการเเก้ไข เเม้บางส่วนต้องรื้อเเก้ใหม่ เขาก็ทำให้ครับ โดยเริ่มต้นทางโรงงานจะเริ่มสเก็ตช์รูปเเบบหลังคารถตามข้อมูลความต้องการของเรา บวกลบ(เเก้ไขเเนะนำ) กับประสบการณ์ของเขาให้กับเราครับ
ตกลงกันในราคา 88,685 บาทครับ วัสดุเป็นปีเนียมอย่างหนามาก2ชั้น ภายในบุความร้อน มีประตูด้านข้าง1บาน(ฝั่งคนนั่ง) หน้าต่าง3บาน(ข้าง2บาน หลัง1บาน) เเละเพิ่มการติดตะเเกรงหลังคา, กระไดขึ้นหลังคา เเละที่ใส่ยางอะไหล่หลัง (เรานำไฟเก๋งรอบรถทั้งหมดเเละหน้าต่าง3บานไปเอง)
หน้าต่างที่ผมซื้อมา เป็นหน้าต่างบานกระทุ้ง 90x50 จำนวน 2 ชุด ชุดละ 2,800 บาท รวม 5,600 เเละ หน้าต่างบานกระทุ้ง 50x50 จำนวน1ชุด ราคาชุดละ 2,480 รวมทั้งสิ้น 8,080 บาทครับ
รายละเอียดติดต่อร้านตามรูปเลยครับ เจ้าของร้านพูดจาดี ของคุณภาพดีครับ ราคาไม่เเพง
ส่วนไฟเก๋งรอบรถผมไปซื้อที่วรจักร ขายเป็นคู่ครับ คู่ละประมาณ 1,000 บาท ทั้งหมดใช้ประมาณ 5คู่ เป็นเงิน 5,000บาท
ตัวหลังคาใช้เวลาทำประมาณ30-45วันครับ ส่วนของผมทำ60วันครับเพราะติดช่วงวันหยุดยาว เเละนี่คือรูปของรถที่ได้ออกมาครับ
.
.
.
หลังจากติดตั้งโครงหลังคาเสร็จ ขั้นตอนต่อไป ก็จะเป็นการติดเเก๊สในระบบหัวฉีด ในราคา 20,400 บาท พร้อมใบรับรองวิศวกรรม
ปรับเปลี่ยนท่อไอเสีย ในราคา 2,500บาท เเล้วเอารถไปเสริมเเหนบ ชื่อร้านปรีชาออโต้เซอร์วิส อยู่เเถวตลาดไทรังสิตครับ ที่ร้านนี้เขาตรวจสอบสภาพรถพร้อมให้คำเเนะนำตามความต้องการ ซึ่งสิ่งที่ผมต้องการคือ "นุ่มนวล เเละ รับน้ำหนักรถได้" โดยสิ่งที่ได้เสริมไปในรถมีดังนี้ครับ
1.โช๊คหลัง1คู่
2.เเหนบข้างละ3เเผ่น ในราคา8,600บาท (ไม่ได้ขอใบวิศวกรรับรอง)
ทางร้านเเนะนำว่า หากมีการเพิ่มน้ำหนัก ให้นำรถมาเพิ่มเเหนบได้อีก ต่อไปมาพูดถึงขั้นตอนการนำรถ ไปจดการเปลี่ยนกระบะ การใส่หลังคาเสริมเเหนบเเละ การติดตั้งการใช้เเก๊สlpg+น้ำมัน โดยทั้ง 3 ขั้นตอนนี้ผมทำพร้อมกันนะครับ อย่างที่ผมเคยกล่าวไว้ กรมการขนส่งมีเงื่อนไขสำคัญ ดังนี้ครับ
1.ความสูงจากพื้นถึงหลังคาต้องไม่เกิน3เมตร
2.น้ำหนักรถ+หลังคาต้องไม่เกิน2,200กิโลกรัม
3.ห้ามไม่ให้ความกว้างความยาวของหลังคาเกินตัวรถ เว้นด้านหน้า
4.ความยาวของโครงสร้างด้านหน้าที่ยื่นคลุมหลังคาต้องไม่เกินหลังคารถ(ขอบบนกระจกหน้ารถ)
5.การจดทะเบียน การใส่หลังคา สามารถจดได้ทุกกรมการขนส่งทั่วประเทศ เเต่ในกรณีที่เปลี่ยนพื้นกระบะ ต้องนำจดที่กรมการขนส่งต้นเรื่องของรถคันนั้นครับ (รถของผมจดทะเบียนที่กรุงเทพกรมการขนส่งหมอชิตครับ)
เอกสารที่ผมใช้ในการจดทะเบียนครั้งนี้มีดังนี้ครับ
1.สมุดคู่มือรถ(เล่มทะเบียนรถ)
2.บัตรประชาชน
3.ใบเสร็จค่าติดตั้งเเก็ส
4.ใบเสร็จค่าเปลี่ยนเเหนบเเละโช๊ค
5.ใบเสร็จค่าใช้จ่ายในการทำโครงสร้างหลังคารถ
6.ใบเสร็จจากร้านที่เปลี่ยนพื้นกระบะรถ
7.ใบรับรองวิศวะความปลอดภัยด้านการติดตั้งเเก็ส(ขอจากร้านที่ติดตั้ง)
8.ใบวิศวะรับรองโครงสร้างหลังคา
9.ใบวิศวะรับรองการเปลี่ยนเเหนบเเละโช๊ค
*หมายเหตุ ใบวิศวะ ข้อที่7,8,9 ผมได้มาจากร้าน หจก.ทูลเกษา เอ็นจิเนียร์ริ่งเเอนด์เซอร์วิส จังหวัดนนทบุรีครับ
3 ใบดังกล่าว เป็นเรื่องยุ่งยากสำหรับผมเเต่เเรก จึงได้หาข้อมูลจาก Google เเละได้ติดต่อร้านนี้ เเละกลายเป็นเรื่องง่ายครับ
หากท่านมีปัญหาเกี่ยวกับใบรับรองวิศวกรที่ถูกต้องเเละนำไปใช้ได้จริง ราคาไม่เเพง ที่นี่เป็นตัวเลือกที่ดีเเละมีคำเเนะที่ดีให้กับเราครับ ซึ่งทั้งสามใบเสียค่าใช้จ่ายรวม 3,200บาท
ก่อนที่จะไปขอใบวิศวกรต้องนำรถไปชั่งน้ำหนัก ซึ่งผมได้นำรถไปชั่งที่ร้านรับซื้อของเก่า ชื่อร้านมิตรอารี 7 ซอยลาดพร้าว101 เขามีตราชั่งเเละรับชั่งทั่วไป ชั่งครั้งละ20บาท เเละออกใบเเสดงน้ำหนัก พร้อมรับรองให้เราถูกต้อง นำไปให้ที่ร้านรับรองใบวิศวกรด้วย
หลังจากนั้นผมนำรถไปที่กรมการขนส่งหมอชิต เข้าไปที่เเผนกตรวจสภาพรถ เเละเเจ้งกับทางเจ้าหน้าที่ตรวจสภาพรถในการขอจดเปลี่ยนกระบะ จดเปลี่ยนหลังคา จดการใช้เเก๊สเเละขอคำเเนะนำในกรณีที่มีส่วนที่ต้องเเก้ไขให้ถูกต้องตามกฏหมาย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่เขายินดีให้คำเเนะนำเเละสุภาพมากๆครับ เจ้าหน้าที่ได้จดสิ่งที่ต้องเเก้ไขพร้อมเเนะนำเอกสารที่ต้องนำมาตามที่ผมได้บรรยายไปเเล้ว
ส่วนรถผม มีส่วนที่ต้องเเก้ไขตรง
1.หลังคาหน้าที่ยื่นเกินกว่าขอบบนกระจกหน้ารถ(ข้อที่4)
2.น้ำหนักเกิน2,200กิโลกรัม(ข้อที่2) ซึ่งผมได้นำรถมาเปลี่ยนเเปลงเเก้ไขตามคำเเนะนำของกรมการขนส่ง
ก่อนการเเก้ไข
หลังเเก้ไข
.
โดยสิ่งที่เเก้ไขมี
1.ตัดหลังคาส่วนหน้าที่ยื่นเกินหลังคารถ นำไปเเก้ไขที่โรงงานน่ำเชียงหลี NCL Autoที่เดิมครับ
2.ลดน้ำหนักรถไปเหลือ 2,150กิโลกรัม
หลังจากเเก้ไขเรียบร้อย ผมจึงนำรถไปกรมการขนส่งอีกรอบพร้อมยื่นเอกสารที่ผมได้บอกไว้ก่อนหน้า เเละเเจ้งกับทางเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งฝ่ายตรวจสภาพเพื่อขอจดเปลี่ยนกระบะ เเจ้งการใส่หลังคา จดทะเบียนการใช้เเก๊สเเละเสริมเเหนบ
ทางเจ้าหน้าที่ได้ถ่ายรูปเเละชั่งน้ำหนักรถ เเละสอบถามถึงการใช้งานรถ ผมเเจ้งกับทางเจ้าหน้าที่ว่า "นำรถไปใช้เอนกประสงค์ส่วนบุคคล ไม่ใช่รับจ้าง"
เจ้าหน้าที่ตรวจเอกสาร ตรวจสภาพรถ ก็อนุมัติจดทะเบียนให้กับผมเเละเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่ม 407บาท
.
ผมอธิบายในส่วนที่เป็นประสบการณ์ของผมเเละนำไปจดทะเบียนตามสภาพรถที่กรมการขนส่งรับเเจ้งเเละถูกกฏหมาย
มีรูปถ่ายเเละมีการเเจ้งจดตามสภาพที่เป็นจริง หากโอกาสหน้ารถได้ปรับปรุงหรือเปลี่ยนไปเเบบใด เเละต้องนำไปจดทะเบียนเเก้ไขใหม่ ก็จะนำมาเล่าสู่กันฟังในโอกาสต่อไปครับ
*กรณีเปรียบเทียบ หรือมีข้อสงสัยของท่านอื่น ที่ขนาดรถ น้ำหนักรถ รูปเเบบรถ ลักษณะรถ สมรรถนะรถ ต่างจากรถคันนี้
รวมไปถึงการจดทะเบียนเเบบอื่น อาจจะต่างกับกรณีของรถคันนี้ ซึ่งผมตอบข้อสงสัยไม่ได้ครับ ผมขอพูดถึงเฉพาะประสบการณ์ของผมเองครับ
ในขั้นตอนนี้ประสบการณ์ที่ผมได้คือ เหล็กโครงสร้างที่ทำหลังคารถเเข็งเเรงเกินไปทำให้รถมีน้ำหนักมาก(เเต่ไม่เกินกฏหมายกำหนด) สามารถลดลงได้จะทำให้รถมีน้ำหนักเบาลงมากครับ ปรึกษากับทางโรงงานหรือช่างได้เลยครับ
เมื่อรถจดทะเบียนเสร็จ ครั้งต่อไปผมจะพูดถึงเรื่อง การตบเเต่งภายใน การจัดระบบไฟ การคำนวนการใช้ไฟ การจัดรูปเเบบทำห้องน้ำ
การจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ห้องน้ำเเละอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ รวมไปถึงวางเเผนตำเเหน่งของอุปกรณ์ที่จะใช้ในรถ
ขั้นตอนต่อไป
ผมจะเล่าเรื่องการตกเเต่งภายในของตัวรถ เเละสรุปค่าใช้จ่ายทั้งหมด โจทย์ของผมการตกเเต่งรถในขั้นตอนนี้
จะเเต่งตามสไตล์การใช้งานตามความถนัดโดยคำนึงถึงพื้นที่ของตัวรถเเละอีกข้อที่สำคัญคือสามารถใช้เดินทางได้คันเดียวซึ่งอาจจะไม่ได้จอดตามสถานที่ที่มีน้ำประปาเเละไฟฟ้า ทำให้ผมต้องคำนึงถึงการใช้ไฟให้ได้ยาวนานที่สุด
การเลือกอุปกรณ์ไฟฟ้าหลักๆจะเเบ่งเป็น3ประเภท
- อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้ไฟฟ้า12โวลต์
- อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้ไฟฟ้า220โวลต์
- อุปกรณ์ที่ใช้เเก๊สLPG
โดยผมจะเลือกใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้ไฟฟ้า12โวลต์เป็นหลักเพื่อประหยัดพลังงานนะครับ
- อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้ไฟฟ้า12โวลต์
(ซึ่งทั้งหมดใช้ไฟจากสำรองเเบตเตอรี่100เเอมป์ 2ลูก ลูกละ 3,200บาท รวม 6,400บาท) ก็จะประกอบไปด้วย
1.หม้อหุงข้าว 12โวลต์ ราคา 800บาท
2.หลอดไฟ 3 หลอด 12โวลต์
3. ปลั๊กไฟชาร์จUSB2จุด 12โวลต์
4.พัดลมดูดอากาศในห้องน้ำขนาด8นิ้ว 12โวลต์ ราคาตัวละ 931.50บาท รวมเป็น 1,863 บาท
.
5.พัดลมเพดาน10นิ้ว 12โวลต์ ราคา 1,100บาท
6.ตู้เย็น 12 โวลต์ ขนาด 22 ลิตร ราคา 5,190บาท สั่งจาก lazada ครับ
- อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้ไฟฟ้า220โวลต์ (ใช้ไฟฟ้าผ่านการเเปลงไฟจากเเบตเตอรี่ด้วยอินเวอร์เตอร์แปลงไฟ 3000 วัตต์ 1ตัว)
ก็จะประกอบไปด้วย 1.พัดลมดูดอากาศของHATARIในตัวรถขนาด10นิ้ว 220โวลต์ ราคา 879บาท
2. หลอดไฟ20วัตต์ 1ดวง
3. ปลั้กไฟ2จุด
4. ไมโครเวฟ ราคา 2,590บาท
5. เเอร์12000BTU ของ Natural ราคา 6,500บาท
6. TV24นิ้ว LG พร้อมจายึดผนัง ซึ่งผมได้ต่อกับเสาTV เเละsmartphone cast ไว้ ราคาทีวี4,990 + เสา 500บาท + ขาติดผนัง 300บาท รวมทั้งสิ้น 5,790บาท
.
- อุปกรณ์ที่ใช้เเก๊ส LPG (ใช้เเก๊สจากถังปิกนิค4กิโลกรัม+หัวปรับ+อุปกรณ์ต่อ รวมเป็นเงิน 1,800 บาท)
1. เครื่องทำน้ำอุ่น ราคา 2,800บาท
2. เตาเเก๊ส ราคา 379 บาท เเท่นวางเตามีโต้ะครัวพับเก็บได้ครับ
.
ต่อมาในส่วนอุปกรณ์ใช้สอยอื่นๆก็จะประกอบไปด้วย
- อุปกรณ์ประปา
1.ชักโครกสแตนเลส พร้อมฝา ราคา 6,400 บาท
2.เเท้งค์น้ำชักโครกเเบบเเขวน ราคา 3,000 บาท
3.อ่างล้างมือสแตนเลส ราคา 5,400 บาท รวมทั้งสิ้น 13,680 บาท
ทั้ง 3 ชิ้นสั่งทำจากบริษัท เสริมมั่นคง 359 จำกัดครับ (ของคุณภาพดี เจ้าของอัธยาศัยดีมากครับ)
4. ปั้มน้ำ 990บาท
.
.
- อุปกรณ์เฟอร์นิเจอร์ตกแต่งภายใน
1. ที่นอนชั้นบน ราคา 2,700บาท
.
2. ที่นอน/เบาะนั่งชั้นล่าง ราคา 4,500 บาท
.
3. ตู้เก็บของปีเนียมเเบบเเขวน 2ตู้
.
4. ตู้เเขวนเสื้อผ้าปีเนียม 1ตู้ ราคารวมตู้เเขวน 15,800บาท
*หมายเหตุ อุปกรณ์ที่ไม่ได้ระบุราคา จะคิดรวมกับค่าช่างรับเหมาที่จะพูดถึงต่อไปครับ
สรุปค่าใช้จ่ายในการทำรถบ้านครั้งนี้
1. ตัวรถ
- Toyota Hilux revo ราคา 360,000 บาท
2. ส่วนโครงสร้าง, ระบบน้ำระบบไฟ, ระบบช่วงล่าง, ระบบเเก๊ส เเละ อุปกรณ์ในรถ
- กระบะพื้น ราคา 45,000 บาท
- หลังคา ราคา 88,685 บาท
- หน้าต่าง3บาน 5,600+2,480 = ราคา 8,080 บาท
- ไฟเก๋ง5คู่ ราคา 5,000 บาท
- ระบบเเก๊ส ราคา 20,400 บาท
- ท่อไอเสีย ราคา 2,500 บาท
- โช๊ค+เเหนบ ราคา 8,600 บาท
- อุปกรณ์ไฟ เเบตเตอรี่ ราคา 6,400 บาท
- หม้อข้าว ราคา 800 บาท
- พัดลมดูดอากาศ2ตัว ราคา 1,863 บาท
- พัดลมเพดาน ราคา 1,100 บาท
- ตู้เย็น ราคา 5,190 บาท
- พัดลมดูดอากาศ220v ราคา 879 บาท
- ไมโคตรเวฟ ราคา 2,590 บาท
- เเอร์ 12,000BTU ราคา 6,500 บาท
- TVรวมเสาสัญญาณเเละขายึดผนัง ราคา 5,790 บาท
- ถังเเก๊สเเละอุปกรณ์ ราคา 1,800 บาท
- เครื่องทำน้ำอุ่น ราคา 2,800 บาท
- เตาเเก๊ส ราคา 379 บาท
- ชักโครกสแตนเลส พร้อมฝา ราคา 6,400บาท
- เเท้งค์น้ำชักโครกเเบบเเขวน ราคา 3,000บาท
- อ่างล้างมือสแตนเลส ราคา 5,400บาท
- ปั้มน้ำ ราคา 990 บาท
- ที่นอน ชั้นบน2,700 ชั้นล่าง 4,500 รวมราคา 7,200 บาท
- ตู้อลูมิเนียม3ตู้ ราคา 15,800 บาท
3. ค่าช่าง
- ค่าเเรงช่างเชษฐ์รวมอุปกรณ์ระบบไฟฟ้า ประปาที่นำมาติดตั้งในส่วนที่ขาด ราคา 35,000 บาท
ค่าเเรงเก็บงานสี อุปกรณ์ไฟฟ้า ราวผ้าม่าน ทั้งระบบ รวมอุปกรณ์ ราคา 15,000 บาท
ติดตั้งผ้าม่าน+ราว ราคา 5,500 บาท
4. ค่าจดทะเบียน
ใบรับรองวิศวะความปลอดภัยด้านการติดตั้งเเก็ส+ใบวิศวะรับรองโครงสร้างหลังคา+ใบวิศวะรับรองการเปลี่ยนเเหนบเเละโช๊ค รวมราคา 3,200บาท
ค่าช่างน้ำหนักรถ 40 บาท
ต่อทะเบียนรถ 407บาท
ราคาทั้งหมดไม่รวมตัวรถ 311,173 บาท
ชมคลิป
คลิปเปิดไม่ออก >>> กดตรงนี้ คลิก <<<