ปิดฉากลงไปแล้วสำหรับการแข่งขัน "ซีเกมส์" ครั้งที่ 31 ซึ่งทัพนักกีฬาไทยทำผลงานคว้ามาได้ 92 เหรียญทอง 103 เหรียญเงิน และ 136 เหรียญทองแดง

        ซึ่งอีกหนึ่งเหรียญทองประวัติศาสตร์มาจากวงการสอยคิวไทย "วัฒนา ภู่โอบอ้อม" หรือ "ต๋อง ศิษย์ฉ่อย" นักสนุกเกอร์วัย 52 ปี อดีตมือ 3 ของโลก และนักกีฬาทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ในฐานะกัปตันทีม โดย ต๋อง ศิษย์ฉ่อย พบกับ ลิม ก๊อก เหลียง นักสนุกเกอร์ดาวรุ่งเจ้าของเหรียญทองสนุกเกอร์ 6 แดงจากมาเลเซีย 

        เรียกได้ว่าการแข่งขันครั้งนี้ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งนัดประวัติศาสตร์ของวงการสอยคิวไทยเลยก็ว่าได้ ซึ่งรอบชิงชนะเลิศใช้ระบบการแข่งขัน 4 ใน 7 เฟรม โดยเริ่มต้นเฟรมแรก ลิม ก๊อก เหลียง ขึ้นนำไปก่อน แต่ ต๋อง ศิษย์ฉ่อย ก็ตามตีเสมอโดยชนะในเฟรมที่ 2 เสมอกัน 1-1 เฟรม และจากนั้นเฟรมที่ 3 ลิม ก๊อก เหลียง ขึ้นนำ 2-1 เฟรม ต่อด้วยเฟรมที่ 4  ต๋อง ศิษย์ฉ่อย ก็ยังตามตีเสมอได้อีกเป็น 2-2 เฟรม จนกระทั่งเข้าเฟรมที่ 5 เป็น ต๋อง ศิษย์ฉ่อย สามารถขึ้นนำ 3-2 เฟรม และในเฟรมที่ 6 ก็เป็น ต๋อง ศิษย์ฉ่อย ที่สามารถเก็บชัยชนะไปได้ ชนะไป 4-2 เฟรม 

        สำหรับประวัติของ ต๋อง ศิษย์ฉ่อย เกิดเมื่อวันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2513 ปัจจุบันอายุ 52 ปี จากเด็กสลัมคลองเตย บุตรของนักสนุกเกอร์อาชีพ ฉายา "ฉ่อย ซู่ซ่าส์" โดยคุณต๋องติดตามดูบิดาเล่นสนุกเกอร์มาตั้งแต่เด็ก และทำให้เจ้าตัวได้ฝึกฝนฝีมือมาตั้งแต่เด็ก 

        โดยต๋องเริ่มแข่งขันสนุกเกอร์ในระดับเยาวชน ได้รองชนะเลิศการแข่งขันประเภทดาวรุ่ง ของนิตยสารคิวทอง เมื่อ พ.ศ. 2527 โดยตอนนั้นมีอายุเพียง 14 โดยหลังจากนั้นต๋องก็คว้าชนะเลิศการแข่งขันชิงแชมป์รายการสนุกเกอร์สมัครเล่นโลกเมื่อปี พ.ศ. 2531 ที่ประเทศออสเตรเลีย 

        โดยต๋องเริ่มเล่นอาชีพเมื่อปี พ.ศ. 2532 และด้วยการไต่อันดับขึ้นไปอย่างรวดเร็ว ทำให้เจ้าตัวได้รับฉายาว่า "ไทย ทอร์นาโด" ส่วนชาวต่างชาติจะรู้จักต๋องในฉายา "Thai Phoon" 

        ต๋องสามารถไต่อันดับโลกขึ้นไปได้สูงที่สุดคือ "อันดับที่ 3 ของโลก" ทำให้ต๋องเป็นนักสนุกเกอร์คนที่ 8 ของโลก ที่สามารถทำเงินรางวัลได้มากกว่า 1 ล้านปอนด์ 

        แต่แล้วก็มีช่วงที่ฝีมือของต๋องตกลงจนแฟน ๆ เองต่างก็ตกใจ อันดับของต๋องหลุดจาก 16 คนแรกของโลก หลังจากที่อยู่ในอันดับ 1-16 มาได้ 7 ปี 

        ทั้งนี้ต๋องยังเคยให้สัมภาษณ์กับรายการ คุยแซ่บShow ด้วยว่า หลังจากที่มีชื่อเสียงมาก ๆ มีเงินมีทอง ก็เคยหลงระเริงกับชีวิตเหมือนกัน โดยเจ้าตัวเล่าว่า อย่างช่วงที่ตนมา 2 เดือนทำวีซ่าไปเที่ยว ตนก็ปาร์ตี้กับเพื่อน  ตนหลงระเริงกับคำชม คำหวานเยอะ จนตั้งตัวไม่ติด และกว่าจะรู้เดียงสาก็หมดเงินไปเยอะแล้ว ตอนนั้นหมดคืนละ 700,000 - 800,000 บาท

        สำหรับชัยชนะในซีเกมส์ครั้งนี้ของ ต๋อง ศิษย์ฉ่อย ทำให้นักกีฬาสนุกเกอร์ไทยสามารถคว้าเหรียญทองในการแข่งขันซีเกมส์ครั้งนี้ รวมถึงยังเป็นเหรียญทองแรกของ ต๋อง ศิษย์ฉ่อย ในการแข่งขันซีเกมส์ด้วย

ชมคลิป

คลิปเปิดไม่ออก >>> กดตรงนี้ คลิก <<<

ที่มา : Wikipedia, รายการ คุยแซ่บShow, เฟซบุ๊ก Billiard Sports Association of Thailand