หลายคนคงเคยถูกสอนให้ดื่มน้ำเยอะ เพราะน้ำมีประโยชน์ต่อร่างกาย อีกทั้งยังเป็นสิ่งร่างกายต้องกายมากที่สุด เพราะน้ำเป็นส่วนประกอบที่มีมากที่สุดในร่างกายมนุษย์ ซึ่งมีอยู่ 2 ใน 3 ของน้ำหนักตัว

    ปกติแล้วเราควรดื่มน้ำวันละ 6-8 แก้ว ประมาณ 2 ลิตร หรือคิดตาม น้ำหนักตัวคูณด้วย 33 เช่น คุณน้ำหนัก 60 นั้นคือ 60 X 33 = 1,980 ซีซี หรือประมาณ 2 ลิตร แต่ถึงอย่างนั้นบางคนก็ไม่ค่อยทำตามสักเท่าไหร่นัก

    แต่ในปี 2014 เรียกได้ว่าเป็นที่ฮือฮากันอย่างมาก หลังจากที่ได้มีการแชร์เรื่องราวของ Sarah Smith หญิงชาวอังกฤษวัย 42 มีอาการปวดหัว และอาหารย่อยยาก ซึ่งปกติแล้วเธอเป็นคนที่ดื่มน้ำน้อยมาก โดยเธอจะจิบชาในตอนเช้า ดื่มน้ำในตอนเที่ยงประมาณ 1 แก้ว และตอนเย็นอีก 1 แก้ว รวมๆแล้วเธอดื่มน้ำเพียงแค่ 1 ลิตรต่อวัน

    แต่ทว่าหลังจากที่เธอเริ่มมีอาการป่วย เธอจึงตัดสินใจปรึกษานักประสาทวิทยาเกี่ยวกับอาการปวดหัว และนักโภชนาการเกี่ยวกับอาการอาหารย่อยยาก ซึ่งทั้งสองคนแนะนำเหมือนกันว่า ให้เธอดื่มน้ำเพิ่มขึ้นเป็นวันละ 3 ลิตร เพื่อระบบการทำงานของร่างกายที่ดีขึ้น

    หลังจากทำตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญเป็นเวลา 4 สัปดาห์ นอกจากอาการของเธอจะค่อยๆดีขึ้น จนหายไปในที่สุดแล้ว อีกทั้งยังทำให้เธอดูเด็กขึ้นมากอย่างไม่น่าเชื่อ  ซึ่งก่อนหน้านี้ลูกๆของเธอ Alice วัย 8 ขวบ และ Betty วัย 4 ขวบ ต่างก็บอกว่าเวลาถ่ายรูปเธอหน้าแก่มาก ซึ่งเธอก็เห็นด้วย

    นอกจากนี้ยังน้ำหนักและรอบเอวลดลงอีกด้วย จากน้ำหนัก 199 ปอนด์ และรอบเอว 28 นิ้ว หลังจาก 4 สัปดาห์ น้ำหนักลดเหลือ 197 ปอนด์และรอบเอวเหลือ 27 นิ้ว เราไปดูภาพการเปลี่ยนแปลงกันเลย

    เรียกได้ว่าการดื่มน้ำนั้นมีประโยชน์ต่อร่างกายมากจริงๆ นอกจากจะช่วยบรรเทาทำให้อาการปวดหัว อาหารไม่ย่อยของเธอนั้นค่อยๆหายดีขึ้น แถมยังมีผิวพรรณเปล่งปลั่ง สุขภาพดีและดูเด็กลงอีกด้วย 

ข้อมูลและภาพจาก dailymail