"โกโก้" เป็นพืชที่อาจจะไม่ค่อยมีคนได้ยินมากในประเทศไทย แต่รู้หรือไม่ว่าในประเทศไทยนั้น มีพื้นที่ที่เหมาะต่อการปลูกโกโก้มาก และที่สำคัญ ต้นโกโก้ ยังสามารถให้ผลผลิตสูง และปลูกเพียงครั้งเดียว จากนั้นก็สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ยาวนานถึง 60 ปี

    อดีตข้าราชการสำนักงานชลประทานพิจิตร นายวัลลภ ฟันปี หรือ "ลุงลภ" อายุ 65 ปี ตัดสินใจใช้ชีวิตหลังจากที่เกษียณงานราชการ หันมาปลูกต้นโกโก้ พืชทางเลือกใหม่ ที่กำลังเป็นที่ต้องการของตลาดเนื่องจากตลาดคู่แข่งยังไม่มาก ใช้เวลาปลูก 2 ปี ก็เก็บผลสดจำหน่ายให้บริษัทที่รับประกันราคาต่ำสุด กิโลกรัมละ 8 บาท

    ลุงลภ บอกเล่าถึงจุดเริ่มต้นว่า เขาได้ศึกษาพืชทางเลือกใหม่ จนมาเจอต้นโกโก้ที่เป็นพืชปลูกครั้งเดียว อายุยาวนานและเก็บผลผลิตได้เรื่อยๆ แถมยังมีมูลค่าและกำลังเป็นที่ต้องการของตลาดจำนวนมาก จึงได้นำสายพันธุ์ไอ เอ็ม 1 เป็นที่ต้องการของท้องตลาด มาปลูกในพื้นที่บ้าน ตำบลวังสำโรง อำเภอตะพานหิน จังหวัดพิจิตร

    สำหรับการปลูกต้นโกโก้นั้น จะทำการขุดหลุม 50x50x50 เซนติเมตร มีระยะปลูกห่าง 3 x 3 เมตร โดยใช้ปุ๋ยอินทรีย์ วัตถุและปุ๋ยหมัก รองที่ก้นหลุม จากนั้นก็นำต้นลงปลูกในหลุมที่ขุดเตรียมไว้ และคลุมโคนต้นด้วยฟางแห้ง หรือเศษวัชพืช เพื่อรักษาความชุ่มชื้น และสามารถปลูกแซมกับพืชชนิดอื่น เนื่องจากต้นโกโก้ ต้องการร่มเงา เพิ่มความเจริญเติบโต 

    ใช้เวลาเพียง 2 ปี ต้นโกโก้ก็เริ่มติดดอก และใช้เวลาอีก 5 เดือน จนผลจากสีเขียว กลายเป็นสีแดง และสีส้ม จึงสามารถตัดผลจำหน่าย ส่วนการลงทุนในการปลูกโกโก้ประมาณ 10,000 ต่อไร่ ใช้ต้นกล้า 150-200 ต้นต่อไร่ ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ 3-4 กระสอบต่อไร ต่อปีและประมาณรายได้ในช่วงการปลูก ปีที่ 2-3 ปีที่จะเริ่มให้ผลผลิต 4,000-6,000 บาทต่อไร่ต่อปี

    ลุงลภ กล่าวถึงข้อดีของการปลูกโกโก้ว่า 1 ต้นจะให้ผลผลิตมากถึง 5 กิโลกรัม และสามารถทยอยตัดส่งได้ทั้งปี ซึ่งทางบริษัทที่รับซื้อนั้น จะนำเมล็ดไปทำอุตสาหกรรมช็อกโกแลต ลูกอม เครื่องดื่ม และเบเกอรี่ เป็นต้น นับว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกใหม่สำหรับผู้สนใจด้านการเกษตร ที่ต้องการสร้างรายได้อย่างยั่งยืน

ที่มา : naewna